หนุ่มดวงเฮงแก้บน หลังสมปรารถนา แถมแบ่งปัน “เลขเด็ด”ให้คอหวย

หนุ่มผู้โชคดี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มาแก้บนกับ “เซียนแปะโรงสี” หลังประสบผลสำเร็จสมปรารถนา พร้อมมาขอ “เลขเด็ด” กลับไปลุ้นโชคงวดต่อในงวดถัดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก วัดสว่างอารมณ์ แคแถว ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มาว่า นายกัปตัน ขุนเจริญ อายุ 29 ปี เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ได้นำข้าวสาร 10 กิโลกรัม พร้อมด้วยไข่ไก่ 1,000 ฟอง มาตั้งเรียงรายเพื่อแก้บนให้กับ เซียนแปะโรงสี ที่นักธุรกิจเชื่อกันว่า เมื่อได้มาขอโชคขอลาภ จะประสบผลสำเร็จ สมความปรารถนา เป็นที่รู้กันสำหรับชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน

นายกัปตัน เผยว่า ได้เดินทางมาพร้อมครอบครัว ปัจจุบันทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซื้อขายที่ดิน ก่อนหน้านี้ที่ดินมีปัญหา เนื่องจากที่ดินที่ซื้อไว้เป็นที่ดิน นส 3 กำลังก่อสร้างทำธุรกิจ โดยไม่ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะยังพบว่าเป็นที่ทับซ้อนกับ ส.ป.ก.จึงไม่สามารถออกโฉนดได้ ทำได้แค่เพียงซื้อขายเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ได้เท่านั้น จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง เพราะที่ดินดังกล่าวได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ จึงมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวไว้กับเซียนแปะโรงสี ขอให้ขายที่ดินผืนนี้ได้ยกผืน จะนำข้าวและไข่ไก่มาทำการแก้บน หลังจากนั้นเพียงไม่นานเวลาผ่านไป 1 เดือน เท่านั้น มีนักธุรกิจมาติดต่อซื้อที่ดินจำนวน 7 ไร่ทั้งหมด ทำให้ได้กำไรมาจำนวนหนึ่ง ถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ

สำหรับในการแก้บนครั้งนี้ ยังได้มีการบนบานศาลกล่าวต่อเนื่องอีกว่า ในเดือน ก.พ. 64 นี้ ครอบครัวจะเปิดธุรกิจที่เพชรบุรี หากโครงการสำเร็จเสร็จสิ้นไม่มีอุปสรรคใด จะมาแก้บนให้อีกครั้งหนึ่ง โดยนำข้าวสาร อีก 100 กิโลกรัม และไข่ไก่สด 5,000 ฟอง มามอบให้กับเซียนแปะโรงสี ซึ่งตนและครอบครัวเชื่อว่า ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

รวมทั้งเพื่อให้หลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสได้นำไปทำอาหารแจกจ่ายให้กับสาธุชน เพราะเคยเห็นท่านทำกับข้าวแจกสาธุชน ก่อนเดินทางกลับได้ถือโอกาสเขย่าเซียมซีขอเลขเด็ดจากแปะโรงสีเผื่อได้โชคใหญ่ โดยได้เขย่าเซียมซี 3 ครั้ง ได้หมายเลข 1, 2, 3 พร้อมกับนำไม้เซียมซีที่เขย่าได้มาถือโชว์ให้ดู โดยบอกว่าจะนำหมายเลขนี้ไปเสี่ยงโชค หาซื้อลอตเตอรี่ตามแผงในวัดก่อนเดินทางกลับ

เซียนแป๊ะโรงสี หรือ อาจารย์โง้วกิมโคย เดิมทีชื่อกิมเคย แซ่โง้ว เป็นชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ อาแปะประกอบอาชีพค้าขายข้าวเปลือก และได้ตั้งโรงสีชื่อว่า โรงสีไฟทองศิริ ที่ปากคลองเชียงรากเยื้อง ๆ กับวัดศาลเจ้าและได้โอนสัญชาติจากจีนเป็นไทย รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ กิจการโรงสีของอาแปะมั่นคงมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “แปะกิมเคย”

ท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้เป็นที่เคารพของคนทั่วไปโดยเฉพาะในกลุ่มของพ่อค้าแม่ค้า และเป็นที่เล่าต่อกันมาว่าแป๊ะโรงสีนั้นมีองค์ของพ่อปู่ศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าอีกด้วย โดยในงานประจำปีท่านจะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝน ซึ่งฝนก็จะไม่ตกและท้องฟ้าก็ดูแจ่มใสอีกเช่นกัน

อาแปะได้ทำการบูรณะศาลเจ้าในยามที่การคมนาคมลำบาก แต่ท่านก็ไม่ละความพยายาม จนทำสำเร็จ นอกจากการบูรณะศาลเจ้าแล้ว เซียนแปะโรงสียังเป็นผู้กำหนดวันจัดงานประจำปีของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าเป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 1 รวม 4 วัน 4 คืน ซึ่งทางชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป้ย” และได้ถือเป็นประเพณีตลอดมา

อีกทั้งท่านเก่งเรื่องดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ยต่าง ๆ ในการตั้งบริษัทหรือบ้าน โดยคนที่ให้ท่านชี้แนะกลับไปต่างก็ประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า บรรดาผู้คนทั้งจากในไทยและต่างประเทศต่างพากันมาหาท่าเพื่อขอคำชี้แนะเรื่องทำเลที่ตั้ง ฮวงจุ้ยของบริษัทห้างร้าน จึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้คนต่างนับถือเซียนแป๊ะโรงสีผู้นี้ อาแปะโรงสีได้เสียชีวิตในปี 2526 แต่ชื่อเสียงก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้